บ้านชั้นเดียวสไตล์โมเดิร์น โทนสีเขียว ขนาด 2 ห้องนอน 1 ห้องรับแขก

“บ้าน” เป็นสิ่งพื้นฐานที่มนุษย์ต้องการเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ที่อยู่อาศัยอาจมีหลายประเภทก็จริง แต่เนื่องจาก บ้านมีความสะดวกสบายมากกว่า และหลายคนพึงพอใจที่จะเลือกบ้านเป็นที่อยู่อาศัยหลัก วันนี้เราจึงได้นำแบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียวมานำเสนอให้เป็นแนวทาง

บ้านชั้นเดียวหลังนี้มีขนาด 6×6 เมตร สร้างมาด้วยสไตล์โมเดิร์นและแต่งภายในอกด้วยสีเขียวสดใส เจ้าของบ้านคือคุณ ชมภู นี่แหละจ้ะ ระบุว่า “ยังไม่มีมุกหน้าบัาน รวมถึงห้องน้ำกับห้องคร้ว” หลังคาเลือกใช้แผ่นเมทัลชีทติดฉนวนกันความร้อน ทั้งหมดใชังบประมาณในการสร้างอยู่ที่ 580,000 บาท

ลักษณะภายนอกของบ้าน ออกแบบหลังคาให้เป็นทรงเพิงแหงนลาดเอียงไปด้านหลังมุงเมทัลชีทสีเขียว รอบๆติดตั้งฝ้าที่มีรูระบายอากาศ และแต่งขอบเป็นสีน้ำตาล ผนังบริเวณใต้ชายคากรุทับด้วยไม้ฝาดฌอร่า ด้านล่างทาทับด้วยสีเชียวและตัดด้วยสีน้ำตาลของเสา หน้าต่างเลือกใช้บานกระจกที่ทันสมัย บางบานติดตั้งเหล็กดัดไว้ ส่วนพื้นรอบๆเทคอนกรีตเป็นฟุตบาทเพื่อเสิรมฐานบ้านให้แข็งแรง และง่ายต่อาการทำความสะอาด

ห้องโถงในบ้าน เป็นห้องขนาดกว้างที่ปูพื้นด้วยกระเบื้องมันวาวสีน้ำตาลลายไม้ ผนังห้องสีครีมดูสบายตาและแต่งขอบล่างด้วยวงกบไม้ ฝ้าเพดานเลือกใช้แบบหลุม ตรงกลางติดตั้งโคมไฟสวยดวงใหญ่ ส่วนรอบๆเลือกใช้เป็นไฟดาวน์ไลท์ ห้องนี้สว่าง อากาศปลอดโปร่ง เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหรือรองรับแขกที่มาเยือน

ช่องทางเดินในบ้านไปยังห้องต่างๆมีขนาดพอเหมาะและสว่าง จากห้องโถงออกแบบให้เป็นทรงประตูโค้ง และเมื่อเดินตรงไปด้านหลังสุดจะมีประตูไม้ติดตั้งไว้

ห้องนอนทั้งสองห้องตั้งอยู่คนละฝั่ง ห้องแรกปูพื้นด้วยกระเบื้องหินอ่อนสีครีม ผนังทาทับด้วยสีฟ้าเข้มและตัดฐานขอบล่างด้วยวงกบไม้ ฝ้าเพดานเรียบสีขาวตัดกับสีผนังได้อย่างดี และใคมไฟติดตั้งไว้อย่างสว่าง อีกห้องปูพื้นด้วยกระเบื้องลายไม้ สีของผนังเลือกใช้เป็นสีเขียวอ่อน ทั้งสองห้องมีพื้นที่ใช้สอยกว้าง ส่วนประตูทางเข้าเป็นบานไม้น้ำตาลตัดด้วยสีดำ

จบไปแล้วนะคะกับแบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียวหลังนี้ ที่สร้างและออกแบบเหมาะได้อย่างลงตัว ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะชอบและได้ไอเดียดีๆไปใช้ในการออกแบบและสร้างบ้านของตน สำหรับใครที่จะนำไปใช้เป็นแบบอย่าง งบประมาณในการสร้างอาจจะเปลี่ยนแปลงจากที่เรานำเสนอ ขึ้นอยู่กับค่าวัสดุและค่าระยะทางในเขตพื้นที่ก่อสร้างด้วยค่ะ

ขอบคุณที่มา: เฟซบุ๊ก ชมภู นี่แหละจ้ะ